เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับจังหวัดหนองคาย และคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวร จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ครั้งที่ 3 ภายใต้โครงการ “การพัฒนาแผนที่นำทางสำหรับการขนส่งที่ชาญฉลาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย” โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวปราณี วงศ์บุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมนี้ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ นางสาวศิรินทร์พร เดียวตระกูล ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบวิจัย ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรการวิจัยและนวัตกรรม และ ดร.พรเทพ ศักดิ์สุจริต ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานการการวิจัยแห่งชาติ เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น พร้อมด้วย ดร.บุญทรัพย์ พานิชการ คณะโลจิสติกส์และดิจิทัลซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวรายงานความคืบหน้าของโครงการต่อที่ประชุม ณ ศาลากลางจังหวัดหนองคาย
นางสาวปราณี วงศ์บุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวแสดงความขอบคุณ วช. และทีมนักวิจัย ที่ได้ให้ความสำคัญกับพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยเข้ามามีบทบาทสำคัญในการร่วมวิเคราะห์ปัญหาเชิงระบบ รับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ และสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกที่มีความจำเป็นต่อการออกแบบระบบขนส่งให้ตอบสนองต่อบริบทของพื้นที่ทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การพัฒนาระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และสนับสนุนการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ “เมืองน่าอยู่” ของจังหวัดหนองคาย ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
นางสาวศิรินทร์พร เดียวตระกูล ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรการวิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า วช. ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและขับเคลื่อนการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และตอบสนองนโยบายรัฐจึงได้สนับสนุนทุนวิจัยแก่�คณะโลจิสติกส์และดิจิทัลซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยนเรศวร ดำเนินการศึกษาและจัดทำแผนที่นำทางฯ ฉบับนี้ขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาแผนที่นำทางการพัฒนาระบบขนส่งที่สอดคล้องเหมาะสมกับบริบทของจังหวัดหนองคาย โดยเน้นการเป็นระบบขนส่งที่ชาญฉลาด (Smart Mobility) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแผนที่นำทางดังกล่าวไม่เพียงศึกษาครอบคลุมด้านการขนส่งสาธารณะ โครงสร้างพื้นฐานระบบโลจิสติกส์ การประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อวิถีชีวิตชุมชน เศรษฐกิจ การค้าชายแดน การท่องเที่ยว แต่รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมด้วย โดยหัวใจสำคัญของโครงการคือ กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาชน เพื่อให้มั่นใจว่าแผนที่นำทางที่ได้จะเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดและการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับจังหวัดหนองคายอย่างแท้จริง
ด้าน ดร.บุญทรัพย์ พานิชการ หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า ความเห็นและข้อเสนอแนะจากที่ประชุม จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบในพื้นที่ และส่งเสริมให้จังหวัดหนองคายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและโลจิสติกส์ที่มีความสำคัญในระดับภูมิภาค โดยคำนึงถึงการเป็นเมืองน่าอยู่และระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้จะถูกนำไปปรับปรุงแผนที่นำทางฯ ก่อนส่งมอบให้หน่วยงานที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ เพื่อให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดหนองคายและยกระดับศักยภาพสู่การพัฒนาในระดับประเทศต่อไป โครงการนี้จะก่อให้เกิดผลลัพธ์สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาระบบขนส่งที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุ นักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่ การยกระดับระบบโลจิสติกส์ชายแดน การเพิ่มความสะดวกในการเดินทางและการค้าข้ามแดน การลงทุนรายใหม่และการสร้างความสุขมวลรวมของชุมชนในจังหวัดหนองคาย
การประชุมในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอและรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนต่อร่างแผนที่นำทางฯ ที่จัดทำขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงและโอกาสทางเศรษฐกิจของจังหวัดหนองคายในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟเชื่อมติดระหว่างประเทศไทยสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)