รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันอังคารที่ 15 กันยายน 2563

  • 15 September 2020
  • Author: Admin NRCT
  • Number of views: 1804
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันอังคารที่ 15 กันยายน 2563
🇹🇭ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,480 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 5 ราย)
- เป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 5 ราย

เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)

รักษาหายป่วยแล้ว 3,315 ราย (95.26%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 3 ราย)

รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 107 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State quarantine  โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร (2 ราย) ชลบุรี (2 ราย) และสมุทรปราการ (1 ราย) มีรายละเอียดดังนี้
- มาจากประเทศบาห์เรน 1 ราย 
- มาจากประเทศญี่ปุ่น 1 ราย
- มาจากประเทศปากีสถาน 1 ราย
- มาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย 1 ราย
- มาจากประเทศกาตาร์ 1 ราย

🌐 สถานการณ์โลกในวันนี้
- อินเดีย ยังคงรั้งอันดับ 1 ของตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ 81,911 รายและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,054 ราย คาดว่ายอดสะสมจะทะลุ 5 ล้านรายในวันพรุ่งนี้ ขณะนี้อินเดียมียอดผู้เสียชีวิตสะสมทะลุ 8 หมื่นรายแล้ว
- ตุรกี รายงานยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงที่สุด 63 ราย ในรอบเกือบ 5 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ผู้ว่าราชการนครอิสตันบูลได้สั่งห้ามการจัดงานเทศกาล คอนเสิร์ตและการชุมนุมต่างๆ
- ออสเตรีย รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อของการระบาดระลอกที่สองเฉลี่ยประมาณ 570 รายในรอบ 7 วันโดยผู้ติดเชื้อมากกว่าครึ่งอยู่ในกรุงเวียนนา ทั้งนี้ออสเตรียได้มีมาตรการควบคุมสถานการณ์โดยให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยและอนุญาตให้มีการรวมตัวในพื้นที่ปิดได้ 50 คน

🌐 สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- ฟิลิปปินส์ รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 259 ราย ทั้งนี้ฟิลิปปินส์ได้ใช้มาตรการเว้นระยะห่างที่ 30 ซม. ในระบบขนส่งสาธารณะ และได้ปรับเปลี่ยนกฎใหม่หลังจากมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงที่สุดเป็น 75 ซม.และจะลดเหลือ 50 ซม. ในวันที่ 28 ก.ย. และลดเหลือ 30 ซม. ในวันที่ 12 ต.ค.
- พม่า รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยที่ประมาณ 240 รายต่อวันในรอบ 7 วันที่ผ่านมา โดยมียอดสะสมทะลุ 3,195 ราย และรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้น 12 รายในวันเดียว ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 32 รายแล้ว

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
Print