วช.- มก. จัดอบรม “การพัฒนาศักยภาพนักวิจัยรุ่นใหม่ด้านสัตว์เศรษฐกิจ ประจำปี 2567 รุ่นที่ 3” ณ จ.นครศรีธรรมราช

วช.- มก. จัดอบรม  “การพัฒนาศักยภาพนักวิจัยรุ่นใหม่ด้านสัตว์เศรษฐกิจ ประจำปี 2567 รุ่นที่ 3” ณ จ.นครศรีธรรมราช

















สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดการฝึกอบรม การพัฒนาศักยภาพนักวิจัยรุ่นใหม่ด้านสัตว์เศรษฐกิจ ประจำปี 2567 รุ่นที่ 3 ระหว่างวันที่ 28 - 30 มิถุนายน 2567 ณ Grand Fortune Hotel จังหวัดนครศรีธรรมราช โดย ดร. วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้นายสมปรารถนา สุขทวี รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี ซึ่งการฝึกอบรมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อพัฒนาบุคลากรวิจัยและพัฒนาด้านสัตว์เศรษฐกิจ ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น และมีความก้าวหน้าในสายอาชีพนักวิจัย ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่พึงประสงค์จำเป็นควบคู่กับการมีทักษะสูงด้านวิชาชีพและวิชาการ รวมทั้งเพื่อผลิตนักวิจัยรุ่นใหม่ในการสนับสนุนงานวิจัยในระดับประเทศ ซึ่งการฝึกอบรมดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมการฝึกอบรม 50 คน จากสถาบันการศึกษา และหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจด้านการวิจัยสัตว์เศรษฐกิจ


นายสมปรารถนา สุขทวี รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ให้ความสำคัญในการสนับสนุนการวิจัยแก่นักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนางานวิจัยตามศักยภาพและความถนัดที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง สามารถริเริ่มโครงการใหม่ ๆ สร้างสมประสบการณ์ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องจนเป็นนักวิจัยอาชีพที่มีคุณภาพระดับสูงของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสร้างกำลังใจ และก่อให้เกิดการบูรณาการ ยกระดับการเป็นผู้นำในทางวิชาการระดับนานาชาติด้วยผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติและสิทธิบัตรที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศ อันจะนำไปสู่ก้าวที่สำคัญในการเริ่มใช้หลักสูตร “การพัฒนาศักยภาพนักวิจัยรุ่นใหม่ด้านสัตว์เศรษฐกิจ” ช่วยสร้างแนวคิดการพัฒนาโจทย์วิจัยที่มีความหลากหลายเชิงพื้นที่ ตรงเป้าหมายและประเด็นที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ


ทั้งนี้ การพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่ ด้านปศุสัตว์ ประมง และแมลงเศรษฐกิจ เป็นส่วนหนึ่งซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างบุคลากร ที่ช่วยรังสรรค์ผลงานคุณภาพด้านปศุสัตว์ ประมง และแมลงเศรษฐกิจ ในอนาคต ซึ่งเป็นอีกด้านที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคการเกษตร บ่มเพาะนักวิจัยรุ่นใหม่ให้มีเพิ่มมากขึ้น เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
Print