พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการและนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทยครั้งที่ 2 เรื่อง “ผลิตชิ้นส่วนระบบรางอย่างไรให้ได้มาตรฐาน”

fc2488c88b034cba01c160e37c3071ee_M

 

วันนี้ (16 มีนาคม 2559) เวลา 09.00 น. ณ เวทีหลักชั้น 2 สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรียลลิงค์มักกะสัน กรุงเทพฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการและนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทยครั้งที่ 2 เรื่อง “ผลิตชิ้นส่วนระบบรางอย่างไรให้ได้มาตรฐาน”

เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงบริเวณพิธีฯ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วย นายอาคม เติมวิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรอต้อนรับ

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้ว่า เพื่อขยายองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานงานระบบขนส่งทางรางจาก RTRI (Railway Technical Research Institute) สู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้รับรู้แนวทางการใช้มาตรฐานการผลิตอุปกรณ์ นำเสนอความก้าวหน้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมระบบรางของประเทศไทยที่สามารถไปใช้ประโยชน์ได้จริง

ต่อมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวสนับสนุนการผลิตรถไฟฟ้าและใช้อุปกรณ์ชิ้นส่วนในประเทศว่ากระทรวงคมนาคมมีแผนดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งทางรางหลายโครงการซึ่งเกิดประโยชน์กับประชาชน ในการเดินทางสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นทั้งในเขตเมือง เขตภูมิภาค และส่งผลดีต่อระบบขนส่งสินค้า ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาการบริหารจัดการระบบคมนาคมขนส่งของประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงานสรุปความว่า สาระสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาระบบรางของไทยมี 3 ประเด็น 1.กระทรวงคมนาคมจะต้องเร่งศึกษา และปรับแผนการขนส่งมวลชนให้เป็นระบบบูรณาการคือทำไปด้วยกันไม่ใช่การทำทีละเส้นทาง 2.จะต้องมีแผนการพัฒนาพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟให้มี การใช้ประโยชน์เต็มที่และ 3.คือส่วนที่น่าจะสัมพันธ์กับการประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการในวันนี้ก็คือการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตรถไฟฟ้า ขนส่งมวลชนและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในประเทศไทย โดยมีแนวคิดในการพัฒนาระบบรางของประเทศจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยโดยต้องมีการขยายบริบทจากเพียงการมุ่งจัดหาขนส่งระบบรางมาใช้เพื่อการแก้ไขปัญหาจราจรภายในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑลหรือการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าระหว่างเมืองจะต้องเปลี่ยนไปสู่บริบทการใช้ระบบรางให้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือที่เราสามารถใช้เป็นกลไกในการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ การวิจัยพัฒนา ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยการวางโครงสร้างพื้นฐานผ่านการคมนาคมขนส่งทางรางของรัฐบาลเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท โดยทุกกระทรวงจะต้องร่วมมือผนึกกำลังกัน ทั้งในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงศึกษาธิการ ในการพัฒนาระบบรางของประเทศ ซึ่งจะไม่ใช่แค่การจัดซื้อรถไฟฟ้ามาใช้เพียงอย่างเดียว แต่เราจะต้องใช้งบประมาณของประเทศไปเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา และโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีควบคู่ไปด้วย สำหรับการดำเนินกิจกรรมการวิจัย และพัฒนาขนส่งระบบรางของประเทศไทยให้สามารถเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วนั้น จำเป็นต้องจัดตั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการดูดซับองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีระบบรางจากต่างประเทศและถ่ายทอดไปสู่การใช้ประโยชน์แก่ภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันพัฒนาเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางแห่งชาติ

นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนท้ายอีกว่า หากพวกเราร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มที่ ด้วยความรอบคอบและครอบคลุมทุกด้าน จะช่วยให้เราสามารถใช้เงินงบประมาณของชาติได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ทั้งในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน การพัฒนางานวิจัย ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยจะส่งผลให้ระบบขนส่งทางรางของไทยมีความเจริญก้าวหน้าและพัฒนาอย่างยั่งยืนได้

หลังจากที่นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานแล้ว พิธีกรได้เชิญนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีสักขีพยานส่งมอบผลงานวิจัยเรื่อง “การพัฒนาระบบประเมินความปลอดภัยและสภาวะการใช้งานได้ของระบบรางด้วยการตรวจวัดการสั่นสะเทือนสำหรับการประยุกต์ใช้งานกับระบบรางในไทย” ระหว่างตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติและตัวแทนบริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับตัวแทนหน่วยงานภาคีที่ร่วมงานครั้งนี้ พร้อมเดินเยี่ยมชมการจัดนิทรรศการอุตสาหกรรมระบ

Wednesday, March 16, 2016/Author: SuperUser Account/Number of views (1680)/Comments (0)/
Tags:

นายกฯ ย้ำพัฒนาระบบขนส่งเชื่อมโยงทั้งระบบ

1458102580-4f3a485c1e2d64aafcbfe917bea4e635

 

กรุงเทพฯ 16 มี.ค.- นายกรัฐมนตรี เปิดการประชุมวิชาการ และนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 2 เรื่อง “ผลิตชิ้นส่วนระบบรางอย่างไรให้ได้มาตรฐาน”  ย้ำพัฒนาระบบขนส่งให้เชื่อมโยงกันทั้งหมด ทั้งระบบราง ถนน ทางน้ำและอากาศ  เน้นผลิตชิ้นส่วนระบบรางภายในประเทศ  พัฒนาพื้นที่ตามแนวรางรถไฟให้เกิดประโยชน์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ และนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 2 เรื่อง “ผลิตชิ้นส่วนระบบรางอย่างไรให้ได้มาตรฐาน” The Second Thai Rail Industry Symposium and Exhibition (2nd RISE) Main Theme “Standard and Thailway Parts Manufacturing” ณ สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรล ลิงค์ มักกะสัน

ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย (วศรท.) และ Railway Technical Research Institute (RTRI) ประเทศญี่ปุ่น  เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมระบบรางของประเทศไทยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมได้จริงและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านมาตรฐานการผลิตชิ้นส่วนระบบรางรวมทั้งนำเสนอความก้าวหน้าของการพัฒนา ชิ้นส่วนระบบรางในต่างประเทศเพื่อนำมาประยุกต์และต่อยอดในประเทศไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยต้องพัฒนาระบบการขนส่งทั้งหมดทั้งระบบราง เส้นทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศให้เกิดความเชื่อมโยงกัน ซึ่งทุกหน่วยงานต้องมีแปลนดำเนินการในลักษณะบูรณาการไม่ใช่ต่างคนต่างทำงานในฟังค์ชั่นของตัวเอง  ซึ่งเป็นสิ่งอันตรายสำหรับการพัฒนาประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะต้องมีการกำหนดแนวความคิดของการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน โดยต้องคำนึงถึงประชาชน ควบคู่กับกิจกรรมของพรรคการเมือง ซึ่งวันนี้รัฐบาลจะวางแนวทางเพื่อเพิ่มเส้นทางขนส่งทางรางอีกว่า 3,000 กิโลเมตร ภายในปี 2565 เพิ่มจากเดิมที่มีอยู่กว่า4,000 กิโลเมตร พร้อมฝากให้ทุกส่วนกลับไปคิดว่าทำอย่างไรจะให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถใช้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานทางการขนส่งได้อย่างเท่าเทียม

“ต้องพัฒนาเส้นทางรถไฟในลักษณะท้องงูเหลือม ด้วยการสร้างศูนย์รวมทางเศรษฐกิจตามแนวเส้นทาง ท้องป่องตรงไหนก็พัฒนาตรงจุดนั้น และพัฒนาพื้นที่รอบ ๆ ให้มากที่สุด ให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์ โดยเฉพาะคนที่ยากจน และไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งรัฐบาลมีแผนงานในการพัฒนาพื้นที่โดยรอบไว้แล้ว นอกจากนี้ต้องมีการวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน  วางแผนสร้างรายได้รองรับการขาดทุนในช่วงแรก เน้นการวิจัยพัฒนาที่เป็นความร่วมมือของรัฐและเอกชน ในเรื่องที่ตรงกับความต้องการของประเทศ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การผลิตชิ้นส่วนระบบรางภายในประเทศถือว่ามีความสำคัญและต้องทำให้เกิดขึ้นได้มากที่สุด ควรกำหนดสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศไว้ในการออกแบบโครงการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจทั้งที่้เป็นขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีในประเทศ มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมสำรวจรายชื่อบริษัทประชารัฐที่อยู่ใน 12 กลุ่มธุรกิจ และขอให้การประชุมวันนี้ได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์นำไปสู่การปฎิบัติที่เป็นรูปธรรม ขณะที่งบประมาณในการลงทุนด้านนี้ที่มีจำนวนมาก รัฐบาลก็ให้ความสำคัญ โดยการใช้งบประมาณจะต้องเป็นไปในรูปแบบบูรณาการ และเป็นไปตาม พ.ร.บ.งบประมาณใหม่ที่ได้กำหนดขึ้น และต้องคำนึงถึงประชาชนโดยรอบพื้นที่มากที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้ยกเลิกการทำประชาพิจารณ์ก่อนการเดินหน้าโครงการต่างๆ แต่เป็นการลดขั้นตอนที่ทำให้เกิดความล่าช้า โดยทำควบคู่กันระหว่างการทำประชาพิจารณ์ กับการเตรียมการดำเนินโครงการ การลงนามในโครงการใด ๆ จะต้องผ่านขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ก่อน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องเข้มงวดกับการตรวจสอบทุจริตทั้งหมดและนักลงทุนด้วย หากพบมีใครที่เรียกรับผลประโยชน์ให้แจ้งมายังตนได้ นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่าในการเดินทางไปต่างประเทศจะมีการทวงถามถึงสัญญาในโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงการบริหารจัดการน้ำ จึงสั่งการให้ตรวจสอบว่ามีเรื่องของการรับผลประโยชน์หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงก่อนเริ่มเปิดงาน นายกรัฐมนตรีกล่าวนำว่า วันนี้ม

Wednesday, March 16, 2016/Author: SuperUser Account/Number of views (1704)/Comments (0)/
Tags:

“บิ๊กตู่” เปิดประชุมพัฒนาระบบราง รับอารมณ์เสียเพราะ รธน.-ประชาธิปไตย-ประชามติ

14581039631458103989m

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 มี.ค. ที่สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ มักกะสัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงานการประชุมวิชาการ และแสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 2 เรื่อง “ผลิตชิ้นส่วนระบบรางอย่างไรให้ได้มาตรฐาน” ระหว่างวันที่ 16-17 มี.ค. ซึ่งจัดโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม ร่วมการประชุม

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นวันดีๆ ของพวกเราทุกคน จากการที่ได้มางานในวันนี้ทำให้มีความสุข ถือว่าเป็นความสุขไม่กี่อย่างที่ตนมี ปกติเช้าขึ้นมาจะต้องอารมณ์ดีกัน แต่เช้านี้ก็มีเรื่องเข้ามาอีก ทั้งเรื่องของรัฐธรรมนูญและประชามติ พอดีตนถูกอุ่นเครื่องมาตั้งแต่เช้า เราเองตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุด ก็ขอให้ทุกคนช่วยกันและติดตามให้ทันว่าอะไรเป็นอะไร อย่างเมื่อเช้ามันก็น่ารำคาญ ยุงมันเยอะ คงเป็นยุงตัวเมียมั้ง เป็นยุงตอมดอกไม้ ยุงผลไม้ มันเยอะ เยอะทั้งยุง เยอะทั้งคน เยอะไปหมด คนเยอะกว่ายุง น่ารำคาญจริงๆ มันไปกันไม่ได้”

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศของเรามีความจำเป็นจะต้องพิจารณาเรื่องการจัดทำยุทธศาสตร์เดินหน้าประเทศใหม่ ตนจึงได้บอกว่าเราจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ 20 ปี ไว้ และทุก 5 ปีเราต้องมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและแผนปฏิรูปที่เรากำลังทำกัน ซึ่งเราต้องมีกลไกที่จะทำให้เดินหน้าไปได้ในช่วง 20 ปี ทั้งนี้ ก็เป็นเรื่องที่สามารถปรับปรุงหรือเปลี่ยนได้ตลอดเวลาทุก 1 ปีหรือ 5 ปีเราก็มีคณะกรรมการที่จะต้องพิจารณา เพราะสิ่งที่เราวางไว้ในวันนี้คืออนาคตซึ่งเป็นอนาคตของทุกคนไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลพยายามวางระบบ และสร้างการคมนาคมทุกอย่างให้เชื่อมโยงกัน จึงอยากจะบอกว่าให้เราทำอะไรอย่างเชื่อมโยงไม่ใช่มองแค่ตัวเอง หรืองานของตัวเองเท่านั้น โดยไม่คำนึงอย่างอื่นเพราะจะเป็นสิ่งที่อันตรายต่อประเทศ

 

จากการที่ตนมีประสบการณ์เดินทางไป และพบปะกับผู้นำประเทศที่พัฒนาแล้ว ตนเห็นถึงความก้าวหน้าในเรื่องความคิดและยุทธศาสตร์ 3 ส่วนด้วยกัน 1.เพื่อประชาชน 2.พรรคการเมืองและคะแนนนิยมในการบริหารประเทศตามหลักการ และ 3.เพื่อยุทธศาสตร์ชาติตนจึงอยากให้ทุกคนคิดว่า จะทำอย่างไรให้สามอย่างมารวมกันให้ได้ นั่นเป็นสิ่งที่ต้องกำหนดไว้ในการบริหารราชการแผ่นดินต่อ ไม่เช่นนั้นสิ่งต่างๆ ก็จะกลับมาเหมือนเดิมเราจะไม่เห็นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและก้าวหน้า โดยวันนี้กี่ปีมาแล้วที่ระบบรางทั้งหมดมีกว่า 4,000 กิโลเมตร แต่กำลังจะเพิ่มเป็น 7,000 กิโลเมตรในปี 2565 รัฐบาลนี้คิดแบบนี้และยาวกว่านี้

 

“เราต้องคิดให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 20 ปี แผนปฏิรูปและแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ รัฐบาลไหนเข้ามาก็ขอให้ทำตามแนวทางนี้ หากจะเปลี่ยนแปลงก็ต้องดีกว่า แต่จะเปลี่ยนได้อย่างไรในเมื่อการเมืองเรายังไม่เข้มแข็งนัก ระยะนี้จึงมีความจำเป็นที่จะดำเนินการอะไรก็ตาม เพื่อให้เกิดการเดินหน้าประเทศ นอกจากการดำเนินการในเรื่องของพรรคการเมืองอย่างเดียว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมเข้ามาต้องการทำแค่นี้ไม่ได้ต้องการอย่างอื่นทั้งสิ้น” นายกฯ กล่าว

 

นายกฯ กล่าวว่า ที่ตนต้องพูดมากก็เพราะเพื่อทำความเข้าใจก็ขอให้อดทนในการฟังจะง่วงบ้างอะไรบ้าง แต่ก็จะพูดจนกว่าทุกคนจะหายง่วง ดังนั้นถ้ายังมีคนง่วงอยู่ก็จะไม่เลิกพูด เราจะต้องพูดเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกันไม่ใช่อะไรอะไรก็พูด แต่ว่าอำนาจหรือไม่อำนาจอยู่แบบนี้ ถ้าอำนาจมีแล้วไปใช้ในทางที่ผิดก็ไม่ควรจะมี แต่ถ้ามีอำนาจและใช้ในทางที่ถูกก็ปล่อยให้เขามีไปหน่อย ไม่ได้หมายถึงตนแต่หมายถึงใครก็ตามที่เขาอยากมีอำนาจ แต่อย่าลืมว่าอำนาจไม่ได้หากันมาได้ง่ายๆ ต้องทำทุกอย่างที่จะมีอำนาจในการบริหารงาน เพื่อบ้านเมืองไม่ใช่มีอำนาจ เพื่อไปบังคับขู่เข็ญคนมันทำไม่ได้อยู่แล้ว

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องทำทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และเชื่อมโยงด้วยระบบสาธารณูปโภค ก็จะทำให้ทุกอย่างเข้มเเข็ง ไม่ใช่มาบอกภาคนี้ภาคโน้น แล้วใช้การเมืองไปนำ ประเทศก็จะรวมกันไม่ได้ อยากให้ทุกคนกลับมาคิดตรงนี้ ใครจะรักใครชอบใครตนไม่ว่า จะเกลียดตนก็ไม่ว่า แต่อย่าเกลียดประเทศ อย่าเกลียดประช

Wednesday, March 16, 2016/Author: SuperUser Account/Number of views (1720)/Comments (0)/
Tags:
Wednesday, March 16, 2016/Author: SuperUser Account/Number of views (1821)/Comments (0)/
Tags:

นายกรัฐมนตรีเปิดการประชุมวิชาการและนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 2 เรื่องผลิตชิ้นส่วนระบบรางอย่างไรให้ได้มาตรฐาน

 

PNPOL590316002000204_16032016_025715

นายกรัฐมนตรีเปิดการประชุมวิชาการและนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 2 เรื่อง “ผลิตชิ้นส่วนระบบรางอย่างไรให้ได้มาตรฐาน” เผยแพร่องค์ความรู้ด้านมาตรฐานการผลิตชิ้นส่วนระบบราง

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการและนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 2 เรื่อง “ผลิตชิ้นส่วนระบบรางอย่างไรให้ได้มาตรฐาน” The Second Thai Rail Industry Symposium and Exhibition (2nd RISE) Main Theme “Standard and Thailway Parts Manufacturing” ณ สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรล ลิงค์ มักกะสัน ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย (วศรท.) และ Railway Technical Research Institute (RTRI) ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมระบบรางของประเทศไทยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมได้จริงและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านมาตรฐานการผลิตชิ้นส่วนระบบราง รวมทั้งนำเสนอความก้าวหน้าของการพัฒนาชิ้นส่วนระบบรางในต่างประเทศ เพื่อนำมาประยุกต์และต่อยอดในประเทศต่อไป

1 total views, 1 views today

Wednesday, March 16, 2016/Author: SuperUser Account/Number of views (1693)/Comments (0)/
Tags:
RSS
First 9899100101102103104105106107 Last