Page 10 - NRCT_120
P. 10

งานวิจัยเพ� อประชาชน


               วิเคราะหฝุน PM2.5 จากปฏิกิริยาเคมีในชั้นบรรยากาศ



                                                              ทางวิทยาศาสตรใหเห็นอยางชัดเจน เพื่อนําองคความรูไปสนับสนุนิทยาศาสตรใหเห็นอยางชัดเจน เพื่อนําองคความรูไปสนับสนุน
                                                              ทางว
                                                              งานของภาคราชการที่ตองทํางานตามที่กฎหมายกําหนด และจาก
                                                              การศึกษาฝุน PM2.5 โดยติดตั้งอุปกรณตรวจวัดไวบน KU TOWER

                                                              ทําใหไดทราบถึงฝุนในรูปแบบตาง ๆ ที่แปรเปลี่ยนไปตามสภาพ
                                                              ทางอุตุนิยมวิทยา
                                                                     โดยในชวงเดือนพฤศจิกายนเปนเวลาที่เริ่มพบปญหาฝุน
                                                              โดยนักวิจัยพบฝุนในหลายรูปแบบ ฝุนรูปแบบแรกเปนผลมาจาก
                                                              สภาพอุตุนิยมวิทยา พบในชวงคํ่าที่อากาศเย็นแตยังมีความชื้นอยู
                                                              และฝุนมีความสามารถในการดึงความชื้นสูงมาก ทําใหฝุนมีขนาดโตขึ้น
                 ผูŒช‹วยศาสตราจารย ดร.สุรัตน บัวเลิศ ศึกษาฝุ†นมานานกว‹า  และเกิดเปนปรากฏการณ “ฝุนหลังเที่ยงคืน” ซึ่งเปนฝุนรูปแบบแรก
          15 ป‚ ในเบื้องตŒนนักวิจัยพบป˜จจัยทางดŒานอุตุนิยมวิทยาส‹งผลใหŒเกิดฝุ†น ที่พบในชวงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม จากนั้นจะพบฝุนแบบที่ 2
          ในรูปแบบต‹าง ๆ แต‹ก็ยังมีคําถามและปริศนาตŒนกําเนิดของฝุ†นอีกมากที่รอ จากปรากฏการณอุณหภูมิผกผันที่ทําใหการระบายอากาศลดลงและ

          ไขคําตอบ โดยเฉพาะฝุ†นทุติยภูมิที่มนุษยไม‹ไดŒก‹อ แต‹เปšนผลจากแสงแดด เกิดการสะสมของฝุนคลายฝาชีครอบ และฝุนแบบที่ 3 ที่เกิดจากการ
          อันเจิดจŒาก‹อใหŒเกิดปฏิกิริยาทางเคมีในชั้นบรรยากาศ ทําใหŒเกิดฝุ†นละเอียด เผาไหมในที่โลงแจงและลอยเขามา ซึ่งจากการวัดฝุนบน KU TOWER
          ในชั้นบรรยากาศที่ซํ้าเติมป˜ญหามลภาวะทางอากาศ        พบฝุนจากนอกกรุงเทพฯ พัดเขามา โดยพบวาที่ระดับความสูง
                   ผูชวยศาสตราจารย ดร.สุรัตน บัวเลิศ คณบดีคณะสิ่งแวดลอม  110 เมตร มีกระแสลมแรงและพบปริมาณฝุนมากกวาบรรยากาศ
          ภาควิชาวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม คณะสิ่งแวดลอม มหาวิทยาลัย ชั้นลาง และรูปแบบสุดทายคือฝุนที่แปรผันตามความเขมของแสงแดด
          เกษตรศาสตร เริ่มตระหนักถึงปญหาฝุนเมื่อครั้งไดรับทุนสนับสนุน และเกิดเปนฝุนทุติยภูมิที่ไมมีใครปลอยออกมาโดยตรง

          การวิจัยจากสํานักงานการวิจัยแหงชาติ (วช.) ครั้งแรก เพื่อศึกษา  ฝุนทุติยภูมิ เกิดจากปฏิกิริยาเคมีของกาซออกไซดของ
          การกระจายตัวของมวลสารในบรรยากาศตั้งแตป พ.ศ. 2551  ไนโตรเจน กาซในกลุมสารอินทรียระเหยงาย โดยมีแสงอาทิตย
          ขณะยังทํางานอยูที่คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย  เปนองคประกอบที่สําคัญ โดยเรียกปฏิกิริยานี้วา Photochemical
          และไดพบวาตัวอยางฝุนที่เก็บจากสถานีตรวจวัดซึ่งติดตั้งบนตึก Reaction ทําใหเกิดกาซโอโซน และอนุภาคขนาดเล็กมาก ยิ่งแสงแดด
          ใบหยกที่ความสูง 328 เมตรนั้นมีสารกอมะเร็งในตัวอยางฝุน  มีความเขมสูง ยิ่งเกิดฝุนทุติยภูมิมากขึ้น ซึ่งขอมูลเกี่ยวกับฝุน
          สารดังกลาวคือเบนโซเอไพรีน  (Benzo(a)pyrene)  ซึ่งเปน ประเภทนี้ยังมีอยูนอยมาก งานวิจัยในปจจุบันของ ผูชวยศาสตราจารย
          สารประกอบในกลุมโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคารบอนหรือ PAHs ดร.สุรัตนฯ ที่ไดรับทุนสนับสนุนการวิจัยจาก วช. จึงมุงเนนไปที่
                 จากการศึกษาพบวาในฝุนนั้นมีสารกอมะเร็งเปน แหลงกําเนิดของฝุนทุติยภูมินี้ โดยไดติดตั้งเครื่องมือสําคัญไวบน
          องคประกอบทําให ผูชวยศาสตราจารย ดร.สุรัตนฯ ทุมเทวิจัยเรื่องฝุน KU TOWER เพื่อศึกษาปฏิกิริยาเคมีทางแสงในบรรยากาศชั้นบน
          มาโดยตลอด และไดสรางทีมวิจัยที่มีความแข็งแกรง เนื่องจาก และผลจากงานวิจัยนี้จะเปนขอมูลสําคัญในการกําหนดนโยบาย

          ปญหาฝุนเปนเรื่องสําคัญและตองการหาแนวทางแกไขปญหาดังกลาว  และแนวทางการลดผลกระทบของปญหาฝุน PM2.5 จากแหลงกําเนิดฝุน
          จึงพยายามพัฒนางานดานวิชาการเพื่อชี้นําสังคมและพิสูจน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่ระยะไกลในอนาคต
























                                                                                    สํานักงานการวิจัยแหงชาติ (วช.)
         10                                                                         National Research Council of Thailand (NRCT)
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15