พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โปรดเกล้าฯ องคมนตรี วางพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.4 เนื่องในวันพระบิดาวิทยาศาสตร์แห่งชาติ รมว.อว. นำคณะผู้บริหารเข้าร่วมเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โปรดเกล้าฯ องคมนตรี วางพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.4 เนื่องในวันพระบิดาวิทยาศาสตร์แห่งชาติ รมว.อว. นำคณะผู้บริหารเข้าร่วมเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ วางพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช (รัชกาลที่ 4) เนื่องในวัน “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” ประจำปี 2567 ในการนี้ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว.
พร้อมทั้งคณะผู้บริหาร บุคลากรในสังกัด อว. ร่วมต้อนรับและวางพุ่มดอกไม้ในพิธี ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กระทรวง อว. (โยธี)
วันที่ 18 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ มีความสำคัญต่อวงการวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ไทย เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สยามเทวมหามงกุฎวิทยามหาราช รัชกาลที่ 4 “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” เนื่องจากวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวง ที่ทรงคำนวณไว้ล่วงหน้าถึง 2 ปี ว่าจะเกิดในวันอังคาร ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง จุลศักราช 1230 โดยจะเห็นหมดดวงที่หว้ากอ แขวงเมืองประจวบคีรีขันธ์ จึงโปรดฯ ให้สร้างค่ายหลวงและพลับพลาที่ประทับ โดยมีคณะนักดาราศาสตร์จากประเทศฝรั่งเศส และเจ้าเมืองสิงคโปร์เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ และร่วมในการสังเกตการณ์ด้วย คณะรัฐมนตรีจึงกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคมของทุกปีเป็น "วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ" เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและยกย่องพระปรีชาสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจึงมีความสำคัญ เพราะช่วยสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของความรู้และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อการพัฒนา รวมทั้งเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

Print