วันที่ 26 สิงหาคม 2567 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงนามความร่วมมือการตรวจประเมินและรับรองห้องปฏิบัติการ ในรูปแบบ Peer Evaluation กับ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่ข่าย 11 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยมหิดล และ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อขยายผลการดำเนินงานให้ครอบคลุมไปยังหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการในประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2567 (Thailand Research Expo 2024)“ ครั้งที่ 19 ณ เวทีไฮไลท์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ในฐานะหน่วยงานหลักที่ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยในประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญของมาตรฐานและจริยธรรมในการวิจัย เพื่อให้การวิจัยดำเนินไปอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย วช. จึงให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบมาตรฐานและการประกันคุณภาพของงานวิจัย โดยมุ่งเน้นที่การสร้างสภาพแวดล้อมการวิจัยที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐานความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับนักวิจัยและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการอย่างยั่งยืน วช. ได้ส่งเสริมให้มีการจัดการความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาระบบการตรวจประเมินและรับรองห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานที่กำหนด โดยใช้วิธีการประเมินร่วม (Peer Evaluation) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับมาตรฐานห้องปฏิบัติการให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อีกด้วย
บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันอุดมศึกษา เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการวิจัยของประเทศไทย ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และส่งเสริมให้ประเทศไทยมีระบบวิจัยที่แข็งแกร่งและมีความปลอดภัยสูง