วช.ร่วมงาน “มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13”

วช.ร่วมงาน “มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13”

















กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้มอบหมายให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ดำเนินการร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย ในการจัดงาน “มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13” เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ นายสมปรารถนา สุขทวี รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ร่วมงาน “มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13” ณ หอประชุมกองทัพเรือ โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน ภายในงานได้มีการมอบรางวัล The Next Big Silk Designer Contest ครั้งที่ 5 โดยผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงต่างๆ โดยมีนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายสมปรารถนา สุขทวี รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ดร.สุมาลี อุทัยเฉลิม ประธานที่ปรึกษา สมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย นายเอ็ดเวิร์ด กิตติ นายกสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ.หอประชุมกองทัพเรือ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติได้มีส่วนร่วมสนับสนุน และขับเคลื่อนกิจกรรม มหกรรมผ้าไหมไทย ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานให้กับนิสิต นักศึกษา และคณาจารย์ในสถาบันการศึกษาที่มีหลักสูตรด้านการออกแบบ การออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ และสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ให้ได้มีโอกาสในการออกแบบและตัดเย็บชุดผ้าไหมที่มีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ให้แก่คณะเอกอัครราชทูตและคู่สมรส กงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำประเทศไทย รวมถึงคณะรัฐมนตรี ซึ่งนิสิต นักศึกษา จะได้เรียนรู้วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ตลอดจน เอกลักษณ์ และแนวทางการออกแบบเสื้อผ้าในลักษณะร่วมสมัย โดยใช้ผ้าไหมในการตัดเย็บ โดยในปีนี้มีสถาบันการศึกษา/มหาวิทยาลัย ในสังกัดกระทรวง อว. เข้าร่วมโครงการจำนวน 32 ทีม จากมหาวิทยาลัย 22 แห่ง ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีที่ เยาวชนไทยจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมและประสบการณ์ในการทำงานระดับนานาชาติ รวมถึงมีโอกาสในการช่วยส่งเสริมให้ผ้าไหมไทยเป็นที่รู้จักและชื่นชมในระดับนานาชาติต่อไป
Print