เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แถลงข่าวมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2567 โดยมี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานฯ พร้อมด้วย พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. ดร.จันทร์เพ็ญ เมฆาอภิรักษ์ รองปลัดกระทรวง อว. นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นางสาววราภรณ์ รุ่งตระการ ที่ปรึกษาด้านระบบบริหารการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และผู้บริหารของกระทรวง อว. ตลอดจนผู้บริหารหน่วยงานร่วมจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2567 เข้าร่วม ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 อาคารอุทยานนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
นางสาวศุภมาส กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2567 นับเป็นการเฉลิมฉลองวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติและเป็นปีมีความหมายอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าสู่การเป็นพลเมืองที่มีความรู้ ความสามารถและพร้อมที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อประเทศชาติ ทั้งนี้ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Future Science Community for All" คือส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาศักยภาพของประเทศเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนและประชาชนสู่การเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต สำหรับรูปแบบการจัดงานเปรียบเสมือนห้องเรียนขนาดใหญ่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง เราได้สร้างสรรค์กิจกรรม และนิทรรศการที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ โดยออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้และสัมผัสกับวิทยาศาสตร์อย่างใกล้ชิด
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติในปีนี้ วช. ได้ร่วมจัดนิทรรศการ ภายใต้ Theme "วช. เขียวขจี: NRCT Green City" ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก ศูนย์เกษตรวิถีเมือง ที่เป็นงานวิจัยสืบเนื่องจากประเด็นความมั่นคงทางอาหาร เพราะประเทศไทยมีจุดเด่นในเรื่อง agriculture technology และ food technology อีกทั้งแนวคิด BCG Economy Model ซึ่งจะช่วยต่อยอดแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้เยาวชนได้รับความรู้เรื่องนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีการปลูกพืชในเมือง เพื่อนำไปประกอบอาหารแบบปลอดสารพิษ การจัดการทรัพยากรต่าง ๆ อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดในพื้นที่ เทคโนโลยีการปลูกพืชผักอย่างง่ายในพื้นที่จำกัด ที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจ และ โมเดลสวนลดฝุ่น PM 2.5 นิทรรศการด้านสัตว์เศรษฐกิจ ตลอดจนแมลงเศรษฐกิจ สัตว์น้ำ และพรรณไม้น้ำสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสร้างความเพลิดเพลินสนุกสนานผ่านเกมส์ต่าง ๆ ที่ให้ความรู้เพื่อชิงรางวัลและรับของที่ระลึกมากมาย
ทั้งนี้ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 25 สิงหาคม 2567 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี