VIP-Safe Plus: LAMP Electrochemical Sensor for Detection of Foodborne Pathogen” หรือชุดตรวจแลมป์เคมีไฟฟ้าแบบรวดเร็วขนาดพกพาเพื่อการตรวจหาเชื้อก่อโรคในอาหาร
ผลงานของ คุณวรรณสิกา เกียรติปฐมชัย หัวหน้าห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีวิศวกรรมชีวภาพและการตรวจวัด ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. และคณะนักวิจัยอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. ซึ่งสำนักงานคณะกรรมกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ให้การสนับสนุนและนำผลงานวิจัยเข้าร่วมประกวดในเวที "13th Taipei International Invention Show & Technomart (INST 2017)" ณ Taipei World Trade Center กรุงไทเป ไต้หวัน ระหว่างวันที่ 28 - 30 กันยายนที่ผ่านมา จนคว้ารางวัล Platinum Award ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดของงาน
คุณวรรณสิกา เกียรติปฐมชัย หัวหน้าห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีวิศวกรรมชีวภาพและการตรวจวัด หน่วยวิจัยเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยทางชีวภาพ ไบโอเทค กล่าวว่า “ชุดตรวจแลมป์เคมีไฟฟ้าแบบรวดเร็วขนาดพกพาเพื่อการตรวจหาเชื้อก่อโรคในอาหาร หรือ VIP-Safe Plus เป็นผลงานของการร่วมมือกันของ
3 สถาบัน คือ ไบโอเทค เนคเทค และมหาวิทยาลัยมหิดล ชุดตรวจดังกล่าวเป็นการรวมเทคโนโลยีที่ทันสมัย
3 เทคโนโลยีเข้าด้วยกัน คือ 1. เทคโนโลยีแลมป์ เป็นเทคนิคที่สามารถเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมของเชื้อก่อโรคที่อุณหภูมิคงที่ ซึ่งเทคนิคนี้มีความไวและความจำเพาะสูง ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือราคาแพง 2. เทคโนโลยีการตรวจวัดทางเคมีไฟฟ้าบนขั้วไฟฟ้า กราฟีนแบบพิมพ์ได้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีตรวจวัดแบบใหม่ สามารถประยุกต์ใช้ในการตรวจวิเคราะห์ดีเอ็นเอได้อย่างรวดเร็ว โดยนำหมึกกราฟีนมาพิมพ์ลงบนผิวหน้าของขั้วไฟฟ้า เพื่อช่วยให้การวิเคราะห์ผลให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น 3. เทคโนโลยีการพัฒนาเครื่องมือตรวจวัดทางเคมีไฟฟ้าที่ขนาดใหญ่ราคาแพงให้เป็นเครื่องมือขนาดเล็กและพกพาได้ ทำให้กระบวนการตรวจวัดเชื้อก่อโรคในอาหารง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น แต่มีค่าใช้จ่ายลดลง” ซึ่งชุดตรวจนี้สามารถตรวจหาเชื้อก่อโรคในอาหาร 3 ชนิด ได้แก่ Vibrio parahaemolyticus, V. cholerae และ Escherichia coli สายพันธุ์ 0157:H7 โดยใช้เครื่องตรวจวัดขนาดพกพาร่วมกันเพียงเครื่องเดียว ชุดตรวจประกอบด้วย น้ำยาแลมป์ อุปกรณ์ขั้วไฟฟ้าพิมพ์ได้ และเครื่องตรวจวัดขนาดพกพา เพื่อใช้ในการตรวจเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในอาหาร ที่ง่ายต่อผู้ใช้งาน มีความเหมาะสมกับห้องปฏิบัติการขนาดเล็ก และงานภาคสนาม อีกทั้งยังเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ซึ่ง VIP-Safe Plus จะเป็นเครื่องมือที่นำไปสู่แนวทางในการป้องกันและควบคุมการระบาดของเชื้อแบคทีเรียก่อโรคปนเปื้อนในอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารยังสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์จุดเสี่ยงในสถานประกอบการ และกระบวนการผลิตร่วมกับระบบประเมินคุณภาพอื่นๆ เช่น HACCP หรือ GMP เพื่อช่วยลดการปนเปื้อนของแบคทีเรียก่อโรคได้อีกด้วย”