อเมริกาเกิดระบาดหนักทั่วประเทศ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นวันละกว่า 43,000 ราย
(29 มิถุนายน 2563) ศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา ของ ศบค. โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.) เปิดเผยผลการวิเคราะห์และติดตามการระบาดของโรคโควิค-19 ทั่วโลก ว่าขณะนี้การระบาด ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ขยายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก มีการติดเชื้อแพร่กระจายไปทั่วประเทศ แล้วโดยยังไม่มีแนวโน้มว่าจะควบคุมได้ ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกาแล้วกว่า 2,600,000 คน หรือเท่ากับหนึ่งในสี่ของผู้ติดเชื้อทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 128,000 คน รวมทั้งผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ หรือ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ของสหรัฐอเมริกา ได้รายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อของประเทศน่าจะมีมากกว่าจำนวนที่รายงานนี้อีกถึง 10 เท่า เนื่องจากผู้ติดเชื้อจำนวนมากนั้นไม่มีอาการจึงไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อ ซึ่งต่อมาได้ทำการตรวจหาแอนติบอดีพบว่ามีประชากรจำนวนมากมีแอนติบอดีต่อเชื้อโรคโคสิด-19 ซึ่งแสดงว่าได้เคยติดเชื้อแล้ว
ในช่วงต้นของการติดเชื้อในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น มีความรุนแรงในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน โดยมีศูนย์กลางการระบาดหลักอยู่ที่รัฐนิวยอร์กและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งผู้ติดเชื้อได้รับเชื้อมาจากทวีปยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาสามารถควบคุมการระบาดได้ จำนวนผู้ป่วยค่อยๆลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนการติดเชื้อที่รัฐอื่นยังมีไม่มากนัก แต่ละรัฐจึงได้มีมาตรการในการผ่อนคลายกิจกรรมต่างๆมากขึ้น ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างเดิมตามปกติโดยไม่ได้มีมาตรการป้องกันส่วนบุคคลหรือสวมใส่หน้ากากอนามัยมากนัก หลังจากนั้นมีเหตุการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่พบว่าการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้เพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างมากและรวดเร็ว ตั้งแต่ ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกับที่พบในเดือนเมษายน แล้วเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างก้าวกระโดด จนทำสถิติสูงสุดรายวันอย่างต่อเนื่องทุกวันแล้ว
นอกจากนี้ประเด็นที่น่าเป็นห่วงมาก คือ พบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงมากขึ้นในรัฐที่มีประชากรมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส ฟลอริดา ที่เส้นกราฟเป็นขาขึ้นชัดเจน โดยศูนย์กลางการระบาดในช่วงนี้ อยู่ที่รัฐฟลอริดา เท็กซัส และแอริโซนา ซึ่งสถานการณ์น่าเป็นห่วงมาก ทั้งนี้รัฐที่ได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายแล้วได้ระงับหรือชะลอมาตรการผ่อนคลายนี้ และหลายรัฐได้เริ่มกลับมาใช้มาตรการในการควบคุมมากขึ้นอีก เช่น รัฐฟลอริดาและเท็กซัสได้กลับมาปิดบาร์และควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการร้านอาหารอีกครั้งหลังจากที่ให้เปิดได้ในช่วงก่อนหน้านี้
ประมวลข้อมูลโดย ศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)