รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563

  • 18 September 2020
  • Author: Admin NRCT
  • Number of views: 1697
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,497 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 7 ราย)
- เป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 7 ราย

เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)

รักษาหายป่วยแล้ว 3,328 ราย (95.17%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 3 ราย)

รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 111 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 7 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State quarantine  โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร (6 ราย) และชลบุรี (1 ราย) มีรายละเอียดดังนี้
- มาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย 4 ราย
- มาจากประเทศกาตาร์ 1 ราย 
- มาจากประเทศบังกลาเทศ 1 ราย
- มาจากประเทศปากีสถาน 1 ราย

🌐 สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกทะลุ 30.3 ล้านราย โดยแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นล่าสุดรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติสูงที่สุดจากที่เคยรายงานมาอยู่ที่ 314,752 ราย 
- ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของเปรู ขยับแซงหน้าฝรั่งเศสขึ้นเป็นอันดับที่ 7 ของโลก
- สถานการณ์การติดเชื้อในยุโรปน่าเป็นห่วง / โปรตุเกสรายงานผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นในรอบกว่า 5 เดือนล่าสุดที่ 770 ราย และยังรายงานผู้เสียชีวิตในหลักมากกว่า 10 รายในรอบกว่า 2 เดือน / ฝรั่งเศส ยังคงรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ในหลักหมื่นราย / หน่วยงานด้านสาธารณสุขของอังกฤษระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นกว่า 167% นับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม โดยมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 3,300 รายต่อวัน
- อันดับโลกของไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมขยับเป็นอันดับที่ 130 และยอดผู้เสียชีวิตสะสมขยับเป็นอันดับที่ 132 ของโลก

🌐 สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- อินโดนีเซีย แนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,600 รายต่อวัน และรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 รายต่อวัน
- พม่า ยอดผู้ติดเชื้อทะลุ 4,000 รายแล้ว โดยยังรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 200 รายต่อวัน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทำสถิติของการรายงานที่ 20 ราย ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 60 รายแล้ว

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
Print