Page 16 - จดหมายข่าว วช 132
P. 16

กิจกรรม วช.
                     กิจกรรม วช.
                            วช. ผลักดันเศรษฐกิจสรางสรรค จัดตั้งศูนยวิจัยชุมชน “อารยะศิลป ชัยภูมิ”  ชัยภูมิ”  ชัยภูมิ”  ชัยภูมิ”  ชัยภูมิ”  ชัยภูมิ”  ชัยภูมิ”
                            วช. ผลักดันเศรษฐกิจสรางสรรค จัดตั้งศูนยวิจัยชุมชน “อารยะศิลป
                            วช. ผลักดันเศรษฐกิจสรางสรรค จัดตั้งศูนยวิจัยชุมชน “อารยะศิลป
                            วช. ผลักดันเศรษฐกิจสรางสรรค จัดตั้งศูนยวิจัยชุมชน “อารยะศิลป
                            วช. ผลักดันเศรษฐกิจสรางสรรค จัดตั้งศูนยวิจัยชุมชน “อารยะศิลป
                            วช. ผลักดันเศรษฐกิจสรางสรรค จัดตั้งศูนยวิจัยชุมชน “อารยะศิลป
                            วช. ผลักดันเศรษฐกิจสรางสรรค จัดตั้งศูนยวิจัยชุมชน “อารยะศิลป
                                           ณ พิพิธภัณฑผาโบราณเฮือนคํามุ จังหวัดชัยภูมิ






                 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ 2565 ดร.วิภารัตน ดีออง ผูอํานวยการ15 กุมภาพันธ 2565 ดร.วิภารัตน ดีออง ผูอํานวยการ  การประชุมเพื่อประชุมหารือจัดตั้งศูนยวิจัยชุมชนฯ “อารยะศิลป
                 เมื่อวันที่
          สํานักงานการวิจัยแหงชาติ พรอมดวย นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผูวา ชัยภูมิ” พิพิธภัณฑผาโบราณ (เฮือนคํามุ) จังหวัดชัยภูมิ ดําเนินการโดย
          ราชการจังหวัดชัยภูมิ และเครือขายวิจัยภูมิภาค: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  เครือขายวิจัยภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยนําเสนอผาซิ่นชัยภูมิ
          มหาวิทยาลัยขอนแกน และมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ รวมประชุมเตรียม ที่ไดศึกษาวิจัยและพัฒนา จากการสืบทอดทางวัฒนธรรมของวิถีชีวิต
          การจัดตั้งศูนยวิจัยชุมชน “อารยะศิลป ชัยภูมิ” พิพิธภัณฑผาโบราณ  อารยธรรมลานชางในประเทศไทย ศิลปะลวดลายบนผืนผาที่บอกเลา
          (เฮือนคํามุ) ณ ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ เพื่อสงเสริมและสนับสนุน เปน ประวัติศาสตรและความเปนมาของคนในแตละยุคสมัย โดยมี ดร.คมกฤช
          ศูนยกลางการเรียนรู ดานศิลปวัฒนธรรมลานชางในภูมิภาคตะวันออก ฤทธิ์ขจร เปนหัวหนาโครงการจัดตั้งศูนยวิจัยชุมชน สําหรับเปนสถานที่
          เฉียงเหนือของประเทศไทย                              รวบรวมวัตถุและผาโบราณ เพื่อเปนแหลงศึกษาเรียนรูทางศิลปวัฒนธรรม
                 โดยการจัดตั้งศูนยวิจัยชุมชน เปนการดําเนินงานของ วช. รวมกับ ของอาณาจักรลานชางในแผนดินภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
          เครือขายวิจัยภูมิภาคทั้ง 4 ภูมิภาค เพื่อเปนกลไกในการสรางความยั่งยืน  เครือขายความรวมมือในการดําเนินงาน จะประกอบดวย
          ในการนําองคความรูจากงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ หนวยงานสนับสนุนการบริหารทุนวิจัยและนวัตกรรม โดย วช. พรอมดวย
          ของชุมชนและคุณภาพชีวิตใหกับทองถิ่น บูรณาการความรวมมือในการ หนวยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และสถาบันการศึกษา
          จัดตั้ง “ศูนยวิจัยชุมชน” ในภูมิภาคตาง ๆ โดยเนนกระบวนการมีสวนรวม ในพื้นที่ โดย วช. มีเปาหมายใหความรวมมือจากภาคสวนตาง ๆ ไดสราง
          ของทุกภาคสวน เพื่อใหชุมชน หรือสังคม ไดเขาถึงงานวิจัยและนวัตกรรม  ความยั่งยืนใหกับพื้นที่และทองถิ่น ในการใชประโยชนจากงานวิจัยและ
          และสามารถนําไปใชงานไดจริง เชื่อมโยงพัฒนาการประกอบอาชีพ และ นวัตกรรม ใหชุมชนเกิดความเขมแข็ง และมีการพัฒนาที่ยั่งยืนตอไป
          วิถีชีวิตความเปนอยูของประชาชนใหดีขึ้น


                       วช. ติดตามผลสําเร็จของศูนยวิจัยชุมชน “เกษตรอินทรียเมืองศรีไค”

                             ตําบลเมืองศรีไค อําเภอวารินชําราบ จังหวัดอุบลราชธานี



                                                                  ศูนยกลางในการแลกเปลี่ยนเรียนรู การถายทอดเทคโนโลยี การนํา
                                                                  ผลงานวิจัยไปใชประโยชน ใหชุมชนเขมแข็งและเกิดการพัฒนา
                                                                  ไดอยางยั่งยืนตอไป
                                                                         สําหรับศูนยวิจัยชุมชน “เกษตรอินทรียเมืองศรีไค” ไดนํา
                                                                  องคความรูจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีไปขับเคลื่อน
                                                                  ในการแกไขปญหาและพัฒนาชุมชน เนนการพัฒนาตั้งแตระดับ
                                                                  ชุมชน หมูบาน ตําบล อําเภอ และระดับจังหวัด เชื่อมโยง ตอยอด
                                                                  ผลสําเร็จการดําเนินงานของศูนยวิจัยชุมชน เปนโครงการถายทอด
                 สํานักงานการวิจัยแหงชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา  เทคโนโลยีจากผลงานวิจัยและนวัตกรรมสูกลุมเปาหมายในพื้นที่
          วิทยาศาสตร วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รวมกับเครือขายวิจัยภูมิภาค เพื่อการใชประโยชน เรื่อง “การวิจัยปฏิบัติการแบบมีสวนรวมเพื่อพัฒนา
          ทั้ง 4 ภูมิภาค ไดจัดตั้งศูนยวิจัยชุมชนขึ้น โดยใชองคความรูจากงานวิจัย และถายทอดเทคโนโลยีการผลิตมะเขือเทศเชอรี่อินทรียในโรงเรือนที่มี
          และนวัตกรรม มายกระดับผลิตภัณฑของชุมชนและคุณภาพชีวิตใหกับ คุณภาพสูงสําหรับตลาดพรีเมี่ยมในจังหวัดอุบลราชธานี” โดยมี ผูชวย
          ทองถิ่น โดย วช. พรอมดวยเครือขายวิจัยภูมิภาค: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ศาสตราจารย ดร.ทินน  พรหมโชติ เปนหัวหนาโครงการ
          มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ไดลงพื้นที่ศูนยวิจัยชุมชน “เกษตรอินทรีย  เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ 2565 ดร.วิภารัตน ดีออง ผูอํานวยการ
          เมืองศรีไค” เพื่อติดตามผลสําเร็จของการถายทอดเทคโนโลยีจากผลงานวิจัย สํานักงานการวิจัยแหงชาติ และคณะผูพัฒนานวัตกรรมจากมหาวิทยาลัย
          และนวัตกรรมสูกลุมเปาหมายในพื้นที่เพื่อการใชประโยชน ในการพัฒนา ขอนแกน มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และหางหุนสวนจํากัด อาทิตย
          การผลิตมะเขือเทศเชอรี่อินทรียในโรงเรือนที่มีคุณภาพสูงสําหรับตลาด เวนติเลเตอร ไดนํานวัตกรรมพรอมใชเครื่องยอยสลายใบไม มอบถวายแด
          พรีเมี่ยมในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเปนการนําองคความรูและเทคโนโลยี  วัดปาบุญลอม  อําเภอสวางวีระวงศ  จังหวัดอุบลราชธานี  โดยมี
          มาจัดการและขยายผลผลิตการเกษตรใหมีมูลคาเพิ่มขึ้น ซึ่ง วช. คาดหวังวา  พระอาจารยอภิสิทธิ์ โชติมันโต (ทานปุม) เจาอาวาสวัดปาบุญลอม
          องคความรูจากผลงานวิจัยและนวัตกรรม และความรวมมือจากทุกภาคสวนนี้  เพื่อนําไปใชแกปญหาในการดูแลพื้นที่และสิ่งแวดลอมโดยรอบพื้นที่
          จะไดนําไปสูการใชประโยชนรวมกับชุมชนในการพัฒนาและสงเสริมใหเปน และชุมชน ตามที่วัดปาบุญลอมไดขอรับการสนับสนุนนวัตกรรม
                                                                                     สํานักงานการวิจัยแหงชาติ (วช.)
         16                                                                          National Research Council of Thailand (NRCT)
   11   12   13   14   15   16