Page 4 - จดหมายข่าว วช 132
P. 4

งานวิจัย : ศิลปวัฒนธรรม




















          ของชาวไทใหญ ไดนํามาสูการจัดทําแนวทางสงเสริมและ         งานวิจัยไดเดินหนาสงเสริมให อปท. ขับเคลื่อน
          อนุรักษวัฒนธรรม วิถีการดําเนินชีวิต และเศรษฐกิจชุมชน  การบริหารจัดการพิพิธภัณฑฯ ในระยะ 4 ป พ.ศ. 2565 - 2568
          บนฐานแนวคิดการพัฒนาอยางยั่งยืน (SDGs) ของประเทศไทย  รวมกับการพัฒนาผลิตภัณฑหัตถกรรม และศิลปะพื้นบาน
          โดยบูรณาการองคความรูจากงานวิจัยไปดําเนินการฝกอบรม ของกลุมชาติพันธุ จัดฝกอบรมพัฒนาการทองเที่ยวทางวัฒนธรรม

          เชิงปฏิบัติการ โดยการมีสวนรวมของสถาบันการอุดมศึกษา  และสรางมัคคุเทศกทองถิ่น รวมทั้งผลักดันใหเกิดหลักสูตร
          และองคกรปกครองสวนทองถิ่น (อปท.) ตั้งเปาหมายใหเกิด ตาง ๆ ในโรงเรียน กวา 4 หลักสูตร เพื่อเพิ่มจํานวนผูสืบสาน
          เปนขอเสนอแนะ และการจัดทําแผนขับเคลื่อนการพัฒนา ภูมิปญญาและอนุรักษ สรางนิทรรศการหมุนเวียน และบริหาร

          อยางยั่งยืนของ อปท. ในการเสริมสรางการอนุรักษ พัฒนา จัดการพิพิธภัณฑขุนยวมใหมีชีวิตอยางยั่งยืน สงตอเปน
          กายภาพ เศรษฐกิจและสิ่งแวดลอมอยางเหมาะสมกับบริบท คุณภาพชีวิตที่ดีแกชุมชนสืบไป
          ของชุมชนอําเภอขุนยวม จังหวัดแมฮองสอน                     โดยเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 ดร.วิภารัตน ดีออง
                 การดําเนินการไดจัดกิจกรรมปลูกจิตสํานึกการ ผูอํานวยการสํานักงานการวิจัยแหงชาติ เปนประธานเปดศูนย
          อนุรักษที่ยั่งยืน โดยการฝกอบรมเชิงปฏิบัติการใหคณะครู  ประสานงาน “พิพิธภัณฑมีชีวิตขุนยวมสูการพัฒนาที่ยั่งยืน”

          และนักเรียนจากโรงเรียนตาง ๆ ในพื้นที่ เพื่อจัดทําหลักสูตร พรอมดวยผูทรงคุณวุฒิสํานักงานการวิจัยแหงชาติ รองผูวา
          ทองถิ่นดานประวัติศาสตรชุมชน จํานวน 75 คน รวมกับ  ราชการจังหวัดแมฮองสอน ผูนําชุมชนทองถิ่นในอําเภอขุนยวม
          อปท. และกํานันผูใหญบาน อีกจํานวนหนึ่ง นอกจากนี้ เครือขายนักวิจัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม มหาวิทยาลัยแมโจ

          ยังสรางความรูความเขาใจการจัดทําบัญชีรายการศิลปวัตถุ  และมหาวิทยาลัยราชภัฏลําปาง ใหเกียรติเขารวมในพิธีเปด
          โบราณวัตถุ และสถาปตยกรรม กระตุนใหพระภิกษุสงฆ และ ศูนยประสานงาน “พิพิธภัณฑมีชีวิตขุนยวมสูการพัฒนา
          ชุมชนเห็นสําคัญของมรดกทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะงาน ที่ยั่งยืน” ณ วัดคําใน อําเภอขุนยวม จังหวัดแมฮองสอน เพื่อ
          ศิลปกรรมทางพระพุทธศาสนาอันลํ้าคาที่มีอยูของวัดมวยตอ  นําองคความรูจากการวิจัยมาบูรณาการกิจกรรมของพิพิธภัณฑ
          และวัดคําใน พรอมขยายเครือขายโครงการวิจัย และชองทาง มีชีวิตขุนยวม พรอมสงมอบบัญชีศิลปวัตถุแกวัดมวยตอและ

          การประชาสัมพันธเพื่อสรางการรับรูที่ดี อันเปนสวนหนึ่ง วัดคําใน เพื่อการอนุรักษเก็บรักษามรดกทางวัฒนธรรมของ
          ของแรงสนับสนุน โดยพิพิธภัณฑมีชีวิตขุนยวม ตั้งอยูที่ตําบล ชาติตอไป
          ขุนยวม อําเภอขุนยวม จังหวัดแมฮองสอน เปดใหชุมชน         ซึ่งในงานดังกลาว วช. ไดนําคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่

          และประชาคมสังคมไดเขามาเรียนรูมรดกทางวัฒนธรรม  เพื่อเยี่ยมชมความสําเร็จของโครงการฯ เพื่อใหสื่อมวลชน
          เก็บเกี่ยวอัตลักษณทองถิ่น และใชประโยชนจากงานวิจัยได เปนสื่อกลางในการเผยแพรประชาสัมพันธผลงานวิจัยให
          เก็บเกี่ยวอัตลักษณทองถิ่น และใชประโยชนจากงานวิจัยได เปนสื่อกลางในการเผยแพรประชาสัมพันธผลงานวิจัยให
          อยางมีประสิทธิภาพ                                  สาธารณชนไดรับทราบและนําไปใชประโยชนตอไป
                                                              สาธารณชนไดรับทราบและนําไปใชประโยชนตอไป
















                                                                                    สํานักงานการวิจัยแหงชาติ (วช.)
          4                                                                         National Research Council of Thailand (NRCT)
   1   2   3   4   5   6   7   8   9