Page 8 -
P. 8

งานวิจัยเพื่อประชาชน


          แตกหักน้อยมำก และเก็บรักษำได้นำน) และได้ร่วมหำรือถึงอัตลักษณ์    อบแห้งด้วยรังสีอินฟรำเรด (เครื่องอบแห้ง ฯ ที่ได้รับกำรสนับสนุน)
          จุดเด่น จุดขำย ข้ำวฮำงงอกที่จะผลิตจำก ต�ำบลหนองหล่ม อ�ำเภอ   ภำยในระยะเวลำอันสั้น ผลกำรด�ำเนินกิจกรรมกำรใช้นวัตกรรม

          ดอกค�ำใต้ จังหวัดพะเยำ จนพบว่ำ พื้นที่ที่มีตำน�้ำธรรมชำติจ�ำนวน   ที่ผ่ำนมำของกลุ่มฯ พบว่ำ สำมำรถแปรรูปข้ำวฮำงงอก และออก
          5 ตำ แต่ละตำน�้ำนั้น มีต�ำนำนเล่ำขำน มีควำมเชื่อและศรัทธำ   จ�ำหน่ำยได้ในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียงได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
          ของคนในชุมชน ซึ่งหำกมีกำรน�ำน�้ำมำเป็นวัตถุดิบในกำรผลิต    โดยในวันที่ 8 กรกฎำคม 2562 ส�ำนักงำนคณะกำรวิจัย

          ข้ำวฮำงงอกแล้ว จะท�ำให้ผลิตภัณฑ์ข้ำวฮำงงอกเป็นเอกลักษณ์   แห่งชำติ (วช.) โดย ดร.วิภำรัตน์ ดีอ่อง รองผู้อ�ำนวยกำรส�ำนักงำน
          เฉพำะถิ่น มีที่เดียวในประเทศ ที่ข้ำวฮำงงอกใช้น�้ำธรรมชำติจำก  กำรวิจัยแห่งชำติ เป็นผู้มอบนวัตกรรรมเพื่อกำรพัฒนำด้ำน
          ตำน�้ำ 5 รู น�ำมำแช่และเพำะข้ำวเปลือกด้วยนวัตกรรมเครื่องเร่ง   กำรเกษตรในพื้นที่จังหวัดพะเยำ ภำยใต้โครงกำรจัดกำรควำมรู้
          กระบวนกำรแช่และเพำะงอกข้ำวเปลือกให้งอกได้ภำยใน 24 ชั่วโมง    และถ่ำยทอดเทคโนโลยีจำกผลงำนวิจัยและนวัตกรรม ประจ�ำปี
          และน�ำข้ำวเปลือกนึ่งสุกแล้ว                         2562 เรื่อง “โครงการการจัดการความรู้และขยายผลเทคโนโลยี

                                                              เครื่องเร่งกระบวนการแช่และเพาะงอกข้าวเปลือกส�าหรับการ
                                                              ผลิตข้าวฮางงอก” โดยมี ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.สุพรรณ ยั่งยืน
                                                              เป็นหัวหน้ำโครงกำร และ “โครงการการจัดการความรู้และ

                                                              ขยายผลเทคโนโลยีเครื่องอบแห้งแบบถังทรงกระบอกหมุน
                                                              ด้วยรังสีอินฟราเรดแบบเคลื่อนย้ายได้ ระยะที่ 2” โดยมี ผู้ช่วย
                                                              ศำสตรำจำรย์ ดร.จักรมำส เลำหวณิช เป็นหัวหน้ำโครงกำร
                                                              ในพิธีมอบผลงำนวิจัยและนวัตกรรม แก่กลุ่มวิสำหกิจชุมชน
                                                              ข้ำวหอมมะลิป่ำต้นน�้ำห้วยร่องสัก ต�ำบลหนองหล่ม อ�ำเภอดอกค�ำใต้

                                                              จังหวัดพะเยำ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป

                       ข้อมูลและแนวคิดในการประดิษฐ์  “เครื่องอบแห้งแบบถังทรงกระบอกหมุนด้วยรังสีอินฟราเรด
                       ร่วมกับลมร้อนปล่อยทิ้งแบบเคลื่อนย้ายได้”

                        เครื่องอบแห้งแบบโรตำรีใช้เบอร์เนอร์อินฟรำเรดแบบใช้ก๊ำซเป็นเชื้อเพลิงสร้ำงรังสีอินฟรำเรดแผ่
          ให้วัสดุชื้นที่ป้อนจำกด้ำนหนึ่งของถังด้วยเกลียวล�ำเลียง พัดลมจะเป่ำก๊ำชที่เผำไหม้ของอินฟรำเรดเบอร์เนอร์ไปยัง

          ถังส่วนที่สองเพื่อใช้เป็นลมร้อนส�ำหรับอบแห้งวัสดุอย่ำงต่อเนื่องและปล่อยออกที่อีกด้ำนหนึ่งของถังอุปกรณ์เบอร์เนอร์
          ก�ำเนิดรังสีอินฟรำเรดนี้สำมำรถใช้ก๊ำซเชื้อเพลิง ได้ทั้ง  แอลพีจี  ซีเอ็นจี และไบโอแก๊ส เป็นต้น
                     ท�ำให้มีควำมยืดหยุ่นด้ำนพลังงำนสูง  ใช้ในกำรอบแห้งได้กับวัสดุประเภท เม็ด เมล็ด
                               หรือ ผง เช่น ปุ๋ยอัดเม็ด ข้ำวเปลือก เป็นต้น จึงเป็นเครื่องอบแห้งที่ใช้พลังงำน
                                            ได้อย่ำงคุ่มค่ำ ประหยัดเชื้อเพลิง เหมำะส�ำหรับกลุ่มเกษตรกร



                 ความสามารถในการท�างาน และมูลค่าในทางเศรษฐศาสตร์
                 เครื่องต้นแบบ มีควำมสำมำรถในกำรท�ำงำนประมำณ 0.5 – 3 ตันวัตถุดิบต่อชั่วโมง (เปลือก ไม้ยูคำลิปตัส

         ข้ำวเปลือก) สำมำรถลดควำมชื้นได้ 4 - 6 %w.b. ในเวลำ 3 - 5 นำที  (ขึ้นอยู่กับชนิดและควำมชื้นของวัตถุดิบเริ่มต้น)
         นอกจำกนั้นยังพบว่ำวัสดุมีสภำพร่วนขึ้นไม่เกำะติดกันท�ำให้สำมำรถน�ำไปย่อยลดขนำดได้ดีขึ้น ใช้เชื้อเพลิง แอลพีจี ประมำณ 0.6 –
         1 กิโลกรัม/ชั่วโมง ก�ำเนิดรังสีอินฟรำเรด และใช้ก�ำลังไฟฟ้ำรวมประมำณ 3,000 วัตต์ ต้องกำรใช้แรงงำนในกำรควบคุมกำรท�ำงำนของ
         เครื่อง 1 - 2 คน วัสดุที่สำมำรถน�ำมำอบแห้ง ได้แก่ ลักษณะเป็น ผง ก้อน เม็ด เมล็ดพืช
                 เมื่อประเมินค่ำใช้จ่ำยและวิเครำะห์ทำงเศรษฐศำสตร์วิศวกรรม จำกรำคำแรกซื้อที่ตั้งไว้ 500,000 บำท อำยุกำรใช้งำน 7 ปี
         พบว่ำ มีค่ำใช้จ่ำยในกำรอบแห้ง 170 - 330 บำทต่อตัน (ขึ้นอยู่กับประเภทและควำมชื้นเริ่มต้นของวัสดุ อัตรำกำรป้อนที่ใช้ ตัวอย่ำง
         กำรอบแห้งเบื้องต้น (กรณีข้ำวเปลือกชื้น ควำมชื้นจำกระดับ 22 - 25 % ฐำนเปียก สำมำรถลงควำมชื้นลงเหลือประมำณ 18 - 20 %
         ฐำนเปียก เมื่อผ่ำนเครื่องอบแห้งแบบถังหมุน จำกนั้นน�ำข้ำวเปลือกไปตำกแผ่บนลำน โดยอำศัยที่เมล็ดข้ำวยังคงมีอุณหภูมิสูง
         อยู่ที่ 40 - 50 องศำเซลเซียส ท�ำให้ใช้เวลำตำกอีกประมำณครึ่งวันจะได้ข้ำวเปลือกควำมชื้นประมำณ 13 - 15 % ฐำนเปียก

                   เพื่อเก็บรักษำต่อไป
                                                                                    สำ�นักง�นก�รวิจัยแห่งช�ติ (วช.)
          8                                                                         National Research Council of Thailand (NRCT)
   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13