Page 5 -
P. 5

งานวิจัยเพื่อประชาชน





                 การผลิตปุ๋ยหมักและดินปลูก จากขยะอินทรีย์และผักตบชวา






                                       ส�านักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้รับมอบหมายจากศูนย์อ�านวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน
                               904 วปร. โดย คณะกรรมการจิตอาสาเฉพาะกิจกรรม “การน�านวัตกรรมไปจัดการกับวัชพืชและ

                               ผักตบชวา เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน” ภายใต้ “โครงการจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต
                               ของประชาชนเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก


                                                                                    ดร.ลักขณา เบ็ญจวรรณ์
                                              ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์




                                             ส�ำนักงำนกำรวิจัย  1 ส่วน ต่อใบไม้แห้ง 3 ส่วน พบว่ำ ขยะอินทรีย์ในถังหมัก
                                      แห่งชำติ (วช.) ได้ให้ควำม จะเกิดกำรย่อยสลำยและเปลี่ยนสภำพเป็นปุ๋ยหมักได้ภำยใน

                                     ส�ำคัญกับกำรยกระดับ ระยะเวลำเพียง 1 - 2 สัปดำห์ ทั้งนี้ ผู้ใช้สำมำรถเติมขยะ
          ศักยภำพและคุณภำพชีวิตของประชำชนด้วยวิจัยและ ลงถังหมักได้ทุกวันจนกว่ำจะเต็มถังจึงน�ำปุ๋ยหมักออก และ
          นวัตกรรม เพื่อพัฒนำล�ำน�้ำที่พร้อมน�ำไปสู่กำรใช้ประโยชน์  น�ำปุ๋ยหมักที่ได้นั้นกองหรือใส่เข่งตั้งไว้จนกว่ำอุณหภูมิของ
          และพัฒนำควำมเป็นอยู่ของชุมชนให้ด�ำเนินชีวิตภำยใต้ ปุ๋ยหมักเท่ำกับอุณหภูมิบรรยำกำศ  ซึ่งแสดงถึงสภำวะ

          เศรษฐกิจพอเพียงที่สำมำรถพึ่งพำตนเองได้อย่ำงยั่งยืน   กำรย่อยสลำยเสร็จสมบูรณ์จึงน�ำไปใช้งำนได้ ปุ๋ยหมักที่ได้มี
          จึงได้สนับสนุนทุนวิจัยเพื่อพัฒนำนวัตกรรม “เครื่องผลิต  คุณสมบัติเป็นไปตำมเกณฑ์มำตรฐำนปุ๋ยหมักของกระทรวง
          ปุ๋ยหมัก” แก่ ดร.ลักขณำ เบ็ญจวรรณ์ แห่งศูนย์ปฏิบัติกำรวิจัย เกษตรและสหกรณ์ คือมีปริมำณไนโตรเจนอยู่ในช่วง 2.5 – 3.0 %
          และเรือนปลูกพืชทดลอง มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์ ในกำร ฟอสฟอรัส 0.4 – 1.0% โดยน�้ำหนัก
          ท�ำเครื่องผลิตปุ๋ยหมักมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ  ปัจจุบันมีกำรน�ำ “เครื่องผลิตปุ๋ยหมัก” ไปใช้ใน

          อ�ำนวยควำมสะดวกและจูงใจในกำรท�ำปุ๋ยหมัก เพื่อก�ำจัด  โรงเรียน และภำคกำรเกษตรในหลำยจังหวัด เช่น จังหวัด
          ขยะอินทรีย์ในครัวเรือน รวมถึงให้ภำครัฐที่มีหน้ำที่เกี่ยวกับ  เชียงรำย จังหวัดสตูล จังหวัดนครศรีธรรมรำช จังหวัดนครปฐม
          กำรก�ำจัดขยะมูลฝอยน�ำไปใช้ประโยชน์และยังเป็นเครื่องมือ จังหวัดสมุทรสงครำม และกรุงเทพมหำนคร โดยตัวอย่ำง

          ส�ำหรับกำรรณรงค์ให้ประชำชนท�ำกำรก�ำจัดขยะอินทรีย์   กำรน�ำไปใช้ที่เห็นเป็นรูปธรรมจ�ำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์
          ณ แหล่งก�ำเนิด และใช้ประโยชน์จำกขยะอินทรีย์อย่ำงคุ้มค่ำ เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนสถำพรวิทยำ อ�ำเภอบำงเลน
          ใช้จ่ำยทั้งด้ำนกำรเก็บขน กำรขนส่ง กำรก�ำจัดขยะมูลฝอย  จังหวัดนครปฐม ได้น�ำนวัตกรรมนี้ไปใช้ในกำรผลิตปุ๋ยหมัก
          ลงได้ส่วนหนึ่ง                                      และดินคุณภำพสูง โดยสร้ำงแบรนด์ หรือยี่ห้อเป็นของตัวเอง

                 ส�ำหรับวิธีกำรใช้งำน ภำคครัวเรือนมีขนำดควำมจุถัง  ขึ้นมำ ใช้ชื่อว่ำ “E – ดอกลูกดก” และ 2) กองทุนชุมชน
          80 ลิตร ส่วนภำคกำรเกษตรมีควำมจุถัง 400 ลิตร หลักกำร เมืองท่ำพูด ต�ำบลไร่ขิง อ�ำเภอสำมพรำน จังหวัดนครปฐม
          ท�ำงำน ใช้มอเตอร์ในกำรขับใบกวนผสมที่อยู่ภำยในถังหมัก  น�ำไปใช้ในกำรผลิตปุ๋ยหมักและดินปลูกจำกผักตบชวำ ยี่ห้อ
          เพื่อพลิกกลับกองเป็นกำรชักน�ำอำกำศ หรือกำรเติมอำกำศ  “ดินกองทุนชุมชนวัดท่ำพูด”

          ให้เข้ำสู่กองปุ๋ยหมัก กำรใช้งำนผู้ใช้สำมำรถเติมขยะอินทรีย์   เครื่องผลิตปุ๋ยหมักดังกล่ำวสำมำรถเปลี่ยนขยะ
          เข้ำระบบได้ทุกวันและเวลำ ถ้ำมีขยะอินทรีย์ ให้ท�ำกำรควบคุม อินทรีย์ ใบไม้ รวมถึงวัชพืชน�้ำ เช่นผักตบชวำ มำเป็นปุ๋ยหมัก
          สัดส่วนของขยะอินทรียวัตถุ สีเขียว สีน�้ำตำล และควำมชื้น   น�ำไปสู่กำรปลูกผักอินทรีย์ หรือกำรท�ำกำรเกษตรที่เพิ่มรำยได้
          ให้อยู่ในปริมำณที่เหมำะสมจะท�ำให้กำรย่อยสลำยเกิดได้ดี  ลดรำยจ่ำย กำรรักษำสภำพแวดล้อมและกำรลดภำวะมลพิษ

          และเร็ว จำกผลงำนวิจัยเมื่อใช้เศษอำหำร 2 ส่วน ต่อเศษผัก   ทั้งทำงอำกำศและทำงน�้ำ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งผักตบชวำ
          1 ส่วน และใบไม้แห้ง 1 ส่วน หรือใช้เศษอำหำรและเศษผัก   ในแม่น�้ำล�ำคลองในขณะนี้
                                                                                                (อ่านต่อหน้า 6)
         สำ�นักง�นก�รวิจัยแห่งช�ติ (วช.)
         National Research Council of Thailand (NRCT)                                                         5
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10